การปฏิวัติเอธิโอเปียปี 1974 การล่มสลายของระบอบสมมตพันธมิตรและจุดเริ่มต้นของระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์

การปฏิวัติเอธิโอเปียปี 1974 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของประเทศไปตลอดกาล ครั้งนี้เป็นการลุกฮือจากประชาชนและทหารที่นำโดยกลุ่มทหารหนุ่มที่เรียกตัวเองว่า “คณะปฏิรูปทางทหาร” (Derg) ซึ่งต้องการโค่นล้มสมเด็จพระจักรพรรดิไฮเล・เซลาสซีที่ 1 (Haile Selassie I) ผู้ครองราชย์มาอย่างยาวนาน

สาเหตุของการปฏิวัติมีหลายประการ เริ่มจากความไม่พอใจต่อระบอบสมมตพันธมิตรของพระจักรพรรดิ ที่ถูกมองว่าเป็นระบอบที่ล้าหลังและเอื้ออำนวยต่อชนชั้นสูงเท่านั้น การกระจายรายได้ที่ไม่เป็นธรรม สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และการขาดแคลนอาหารอย่างหนักในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ยิ่งบีบให้ประชาชนต้องลุกขึ้นสู้

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยทางสังคมและการเมืองที่นำไปสู่การปฏิวัติ เช่น การเพิ่มขึ้นของกลุ่มปัญญาชนและนักศึกษาผู้ต้องการการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง การแพร่กระจายอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ และความนิยมในแนวคิดชาตินิยม

เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2517 คณะปฏิรูปทางทหารได้ยึดอำนาจจากสมเด็จพระจักรพรรดิไฮเล・เซลาสซีที่ 1 และประกาศจัดตั้ง “คณะปฏิวัติแห่งชาติ” (National Military Junta)

หลังจากการปฏิวัติ คณะปฏิรูปทางทหารได้เริ่มดำเนินนโยบายการปฏิรูปอย่างกว้างขวางเพื่อแก้ไขปัญหาที่ประเทศเผชิญ

• การริเริ่มโครงการ agrarian reform ที่มุ่งหมายยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนา
• การสร้างระบบการศึกษาและสาธารณสุขที่ทั่วถึง
• การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
• การสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปในระยะแรกก็ประสบกับอุปสรรคมากมาย คณะปฏิวัติแห่งชาติขาดประสบการณ์ในการบริหารประเทศ และยังเผชิญกับความขัดแย้งภายในกลุ่ม

เมื่อเวลาผ่านไป แนวคิดคอมมิวนิสต์ก็เริ่มครอบงำในคณะปฏิรูปทางทหารมากขึ้น และนโยบายการปกครองก็หันมาเข้มงวดขึ้น ระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ภายใต้ “รัฐบาลประชาชนแห่งเอธิโอเปีย” (People’s Democratic Republic of Ethiopia) ถูกสถาปนาขึ้นในปี 2523

ระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ของ Mengistu Haile Mariam ที่ครองอำนาจยาวนานกว่า 17 ปี นำไปสู่ความโกลาหลและความรุนแรงอย่างใหญ่หลวง การ đàn ápทางการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชน และสงครามกลางเมืองที่ยาวนานทำให้ประเทศเอธิโอเปียต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์

ผลกระทบของการปฏิวัติปี 1974

การปฏิวัติเอธิโอเปียปี 1974 มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศทั้งในด้านที่เป็นบวกและลบ

• ด้านบวก:

  • การโค่นล้มระบอบสมมตพันธมิตร
  • การเริ่มต้นการปฏิรูปที่สำคัญ เช่น การปฏิรูปที่ดิน การขยายระบบการศึกษา และสาธารณสุข

• ด้านลบ:

  • การล่มสลายของระบบเศรษฐกิจและสังคม
  • การก่อเกิดระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ที่นำไปสู่ความโหดร้ายและละเมิดสิทธิมนุษยชน
  • สงครามกลางเมืองที่ยาวนานและทำลายล้าง

การปฏิวัติเอธิโอเปียปี 1974 เป็นบทเรียนอันสำคัญของประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคม เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องในหมู่นักประวัติศาสตร์ และเป็นตัวอย่างของความท้าทายที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญ

แม้ว่าการปฏิวัติจะนำไปสู่ความโกลาหลและความทุกข์ทรมาน แต่ก็ยังเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังและการเปลี่ยนแปลงสำหรับประชาชนเอธิโอเปีย การต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความยุติธรรมยังคงดำเนินต่อไป และในที่สุด ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายของระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์